ข่าว


วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

"เสรีภาพศาสนาในสังคมยุโรป" ตอนที่ 2

เสรีภาพศาสนาในสังคมยุโรป ตอนที่ 2
     ไม่เฉพาะในฝรั่งเศสเท่านั้นที่ไม่ยอมรับมุสลิมใส่ผ้าคลุมฮิญาบ (บุรก้า) แต่ในประเทศอิตาลี สเปน เบลเยี่ยม เดนมาร์ก อังกฤษ เนเธอแลนด์ ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย หรืออาจทั้งหมดในแถบยุโรปก็เป็นไปได้ เช่น ในประเทศเดนมาร์ก ที่รัฐบาลได้ออกประกาศว่าห้ามการแต่งกายทางศาสนาทุกอย่างเมื่อเข้ามาในห้องพิจารณาของศาล ซึ่งพรรคการเมืองพรรหนึ่งเรียกร้องให้ใช้กฎนี้กับครูและบุคลากรทางการแพทย์ด้วย ในเบลเยี่ยมรัฐบาลท้องถิ่นใช้กฎเดิมที่ห้ามคนปิดบังหน้าตาตัวเองเพื่อความปลอดภัยในที่สาธารณะในออสเตรีย กำลังพิจารณาเรื่องนี้หากมีหญิงมุสลิมแต่งตัวคลุมหน้าตากันมากขึ้น เช่น เดียวกับในสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนในเยอรมนีเมื่อปี 2546 ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ครูมุสลิมใช้ผ้าคลุมผมไปสอนได้ และอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ออกกฎเฉพาะห้ามข้าราชการและครูมุสลิมใช้ผ้าคลุมผมได้ ในรัสเซียห้ามหญิงมุสลิมคลุมผมเวลาถ่ายรูปติดหนังสือเดินทาง และล่าสุดเมืองบาร์เซโลน่าประเทศสเปน ที่ออกกฎเหล็กห้ามสตรีสวมผ้าคลุมศรีษะเดินในอาคารสาธารณะโดยอ้างว่าการสวมผ้าคลุมศรีษะเป็นการลิดรอนเสรีภาพของสตรี เมืองเลอริดาในคาตาโลเนียและรัฐอื่นๆ แถบตะวันออกเฉียงเหนือ ห้ามหญิงมุสลิมสวมบุรก้าแต่งกายแบบมิดชิดและยังต้องการให้รัฐบาลออกกฎให้ทั่วประเทศปฏิบัติตามในการห้ามหญิงมุสลิมสวยบุรก้า บางรัฐในเยอรมันได้มีการห้ามครูโรงเรียนรัฐบาลคลุมฮิญาบอยู่แล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นประธานาธิบดีนิโคลา ซาร์โกซี่แห่งฝรั่งเศส กำลังผลักดันให้ออกกฎหมายห้ามคลุมบุรก้าเช่นกัน แต่ขั้นตอนยังไม่ผ่านรัฐบาลและรัฐสภา หากผ่านกฎหมายนี้ก็คงออกใช้บังคับโดยกฏหมายที่ร่างดังกล่างมีการกำหนดบทลงโทษสำหรับมุสลิมะห์ หรือสตรีทั่วไป ที่ต้องการปกปิดเรือนร่างของตนให้พ้นจากความชั่วร้ายของเพศตรงข้ามไว้อย่างรุนแรง โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นเงินตั้งแต่ 20-35 เหรียญสหรัฐ (700-1,200 บาท) และอาจถูกจำคุกอีก 7 วันด้วย

     จากการออกกฎหมายห้ามในแถบยุโรปนั้น ก็จะเป็นได้ว่าสาเหตุหลักๆ ในการออกกฎห้าม ก็จะมีอยู่ไม่กี่ประเด็นส่วนหนึ่งก็จะอ้างเรื่องความปลอดภัย เราก็พอจะรับฟังได้แต่ข้ออ้างที่มองว่าผู้หญิงที่คลุมศรีษะปิดหน้าปิดตาเป็นการลดคุณค่าความเป็นสตรี เหตุผลนี้ก็ขัดกับความรู้สึกพวกเราฝั่งเอเชียหน่อย พวกฝรั่งเหล่านี้พยายามยกเรื่องเสรีภาพเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตัวเองว่าจะทำอะไรก็ได้เวลาเราไปเที่ยวทะเลก็จะเห็นเสรีภาพของฝรั่งว่าจะถอดเสื้อผ้านอนเปลือยกายตรงไหนก็ได้ตามชายหาด จะใส่บิกินนี่กี่ชิ้นก็ได้ตามใจฉัน แต่พอเห็นสตรีแต่งกายมิดชิดกลับไม่ให้เสรีภาพคนเหล่านั้นกลับมาออกกฎห้าม ทั้งที่เป็นการปกปิดไม่ให้สัดส่วนหรือความงามบนใบหน้าหรือเส้นผมไปกระตุ้นอารมณ์ผู้ชาย ข้อจำกัดเหล่านี้เราก็คงไปทำอะไรไม่ได้มากนักเพราะเป็นบ้านของเขากับชาวยุโรปคิดแบบนี้มาช้านาน

KBAC : Krabi Polytechnic And Business Administration Collage.
โรงเรียนกระบี่โปลีเทคนิคและบริหารธุรกิจ
ขอบคุณบทความจากหนังสือพิมพ์รายเดือน "กัมปงไทย"